เมนู

9. ปุญญาภิสันทสูตร


[129] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ห้วงบุญห้วงกุศล 8 ประการนี้ นำ
ความสุขมาให้ ให้อารมณ์เลิศ. มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์
เป็นไปเพื่อสิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เพื่อประโยชน์
เกื้อกูล เพื่อความสุข ห้วงบุญห้วงกุศล 8 ประการเป็นไฉน ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ 1 นำความสุขมาให้ ให้อารมณ์
เลิศ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์ เป็นไปเพื่อสิ่งที่น่าปรารถนา
น่าใคร่ นำพอใจ เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข.
อีกประการหนึ่ง อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ถึงพระธรรมเป็น
สรณะ นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ 2 ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ถึงพระสงฆ์
เป็นสรณะ. นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ 3 ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทาน 5 ประการนี้. เป็นมหาทาน อัน
บัณฑิตพึงรู้ว่าเป็นเลิศ มีมานาน เป็นเชื้อสายแห่งพระอริยะ เป็น
ของเก่า ไม่กระจัดกระจาย ไม่เคยกระจัดกระจาย อันบัณฑิตไม่
รังเกียจอยู่ จักไม่รังเกียจ อันสมณพราหมณ์ ผู้เป็นวิญญูไม่เกลียด
ทาน 5 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย อริยสาวกในธรรม.
วินัยนี้ เป็นผู้ละปาณาติบาต งดเว้นจากปาณาติบาต ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย อริยสาวกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย
ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียน แก่สัตว์หาประมาณมิได้ ครั้น

ให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หา
ประมาณมิได้แล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร
ความไม่เบียดเบียน ประมาณมิได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็น
ทานประการที่ 1 ที่เป็นมหาทาน บัณฑิตพึงรู้ว่าเป็นเลิศ มีมานาน
เป็นเชื้อสายแห่งพระอริยะ เป็นของเก่า ไม่กระจัดกระจาย ไม่เคย
กระจัดกระจาย อันบัณฑิตไม่รังเกียจ อันสมณพราหมณ์ผู้เป็น
วิญญูไม่เกลียด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการ
ที่ 4 ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละอทินนาทาน งดเว้นจาก
อทินนาทาน ฯลฯ นี้เป็นทานประการที่ 2 ฯลฯ นี้เป็นห้วงบุญ
ห้วงกุศลประการที่ 5 ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละกาเมสุมิจฉาจาร งดเว้นจาก
กาเมสุมิจฉาจาร ฯลฯ นี้เป็นทานประการที่ 3 ฯลฯ นี้เป็นห้วงบุญ
ห้วงกุศลประการที่ 6 ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละมุสาวาท งดเว้นจากมุสาวาท
ฯลฯ นี้เป็นทานประการที่ 4 ฯลฯ นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการ
ที่ 7 ฯลฯ
อีกประการหนึ่ง อริยสาวกละการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุรา
และเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้ง
แห่งความประมาทแล้ว ชื่อว่าให้ความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความ

ไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้ ครั้นให้ความไม่มีภัย ความ
ไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียนแก่สัตว์หาประมาณมิได้แล้ว ย่อม
เป็นผู้มีส่วนแห่งความไม่มีภัย ความไม่มีเวร ความไม่เบียดเบียน
หาประมาณมีได้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นทานประการที่ 5
ที่เป็นมหาทาน บัณฑิตพึงรู้ว่าเป็นเลิศ มีมานาน เป็นเชื้อสายแห่ง
พระอริยะ เป็นของเก่า ไม่กระจัดกระจาย ไม่เคยกระจัดกระจาย
อันบัณฑิตไม่รังเกียจ จักไม่รังเกียจ อันสมณพราหมณ์ผู้เป็นวิญญู
ไม่เกลียด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นห้วงบุญห้วงกุศลประการที่ 8
นำสุขมาให้ ให้อารมณ์อันเลิศ มีสุขเป็นผล เป็นไปเพื่อสวรรค์
ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ เพื่อประโยชน์
เกื้อกูล เพื่อความสุข ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ห้วงบุญห้วงกุศล 8
ประการนี้แล นำสุขมาให้ ให้อารมณ์อันเลิศ มีสุขเป็นผล เป็นไป
เพื่อสวรรค์ ย่อมเป็นไปเพื่อสิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ
เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข.
จบ ปุญญาภิสันทสูตรที่ 9

อรรถกถาปุญญาภิสันทสูตรที่ 9


ปุญญาภิสันทสูตรที่ 9

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ทานานิ ได้แก่ เจตนาทาน. ความของบทมีอาทิว่า
อคฺคญฺญานิ ดังนี้ กล่าวไว้แล้วในหนหลังนั่นแล.
จบ อรรถกถาปุญญาภิสันทสูตรที่ 9